ปวดท้องตรงไหน? บอกโรคอะไรได้บ้าง

ปวดท้องประจำเดือน

ปวดท้องตรงไหน? บอกโรคอะไรได้บ้าง

1. ปวดหน่วงๆ ที่ท้องน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนมีประจำเดือน
สาเหตุ: PMS (Premenstrual Syndrome)
อาการข้างเคียง: อารมณ์แปรปรวน เจ็บหน้าอก อยากกินของหวาน
อันตรายไหม: ไม่อันตราย แต่บอกว่าฮอร์โมนแปรปรวน ต้องดูแลตัวเองช่วงนี้ให้ดีขึ้น

2. ปวดเฉพาะข้างซ้ายหรือขวา แบบจี๊ดๆ บางครั้ง
สาเหตุ: ไข่ตก (Ovulation Pain) หรืออาจเป็น ถุงน้ำในรังไข่
อาการข้างเคียง: เจ็บจี๊ดเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะกลางรอบเดือน
อันตรายไหม: ถ้าไม่รุนแรง มักเป็นภาวะปกติ แต่ถ้าปวดบ่อย/แรงขึ้นควรพบแพทย์

3. ปวดท้องน้อยเรื้อรัง มีประจำเดือนไม่ปกติ สิวขึ้นง่าย ขนดกผิดปกติ
สาเหตุ: PCOS (Polycystic Ovary Syndrome)
อาการข้างเคียง: ประจำเดือนมาช้า / มาไม่สม่ำเสมอ น้ำหนักขึ้นง่าย
อันตรายไหม: เป็นภาวะเรื้อรังที่ควรได้รับการดูแล เพราะอาจกระทบต่อการมีบุตรในอนาคต

4. ปวดท้องน้อยมากจนต้องนอนงอ เจ็บทะลุหลัง หรือเจ็บจนเป็นลม
สาเหตุ: อาจเป็น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือ ถุงน้ำรังไข่แตก
อาการข้างเคียง: คลื่นไส้ อาเจียน หน้ามืด เป็นลม
อันตรายไหม: อันตราย! ควรพบแพทย์ด่วน

5. ปวดท้องน้อยรุนแรงร่วมกับไข้ ตกขาวผิดปกติ
หรือมีกลิ่นแรง สาเหตุ: อาจเป็น การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน (PID)
อาการข้างเคียงม: ตกขาวข้น มีกลิ่น เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
อันตรายไหม: อันตราย! ต้องรักษาโดยแพทย์ ไม่งั้นอาจลุกลามถึงมดลูกและรังไข่

การปวดท้องแต่ละแบบ…ไม่ใช่เรื่องที่ควรปล่อยผ่าน
เพราะร่างกายเรากำลังส่ง “สัญญาณเล็ก ๆ” ให้เรารู้ทันก่อนที่ทุกอย่างจะสาย
เข้าใจฮอร์โมนให้มากขึ้น รู้ทันร่างกายให้เร็วขึ้น
ร่างกายไม่เคยโกหก อย่าปล่อยให้ฮอร์โมนเล่นงาน 💥
ปวดตรงไหน ต้องรู้ให้ไว ไม่ใช่ปล่อยให้พัง! 💃🔥

บทความที่เกี่ยวข้อง